เทรนด์ Net Zero และเกณฑ์อาคารเขียวอย่าง LEED หรือ TREES กำลังเร่งให้วงการก่อสร้างมองหาวัสดุที่ลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ได้จริง เหล็กเสริมแรงที่เคยเป็นหัวใจของคอนกรีตกลับกลายเป็นโจทย์ใหญ่ เพราะกระบวนการผลิตถลุงเหล็กปล่อย CO₂ สูงและยังเสี่ยงเกิดสนิมระหว่างอายุใช้งาน นี่คือจุดที่วัสดุทดแทนเหล็กอย่าง GFRP Rebar และ GFRP Mesh วัสดุผสมเส้นใยแก้วกับเรซินคุณภาพสูง เข้ามาเปลี่ยนเกมยุคสิ่งก่อสร้างสีเขียว
ทำไม GFRP Mesh จึงตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมมากกว่าเหล็ก
การผลิต GFRP Mesh ใช้พลังงานความร้อนต่ำกว่าการถลุงเหล็กหลายเท่า จึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ต้นน้ำ อีกทั้งน้ำหนักที่เบากว่าราว 60 เปอร์เซ็นต์ต่อตารางเมตรช่วยลดเชื้อเพลิงในระบบขนส่ง เมื่อเข้าสู่ระยะใช้งาน GFRP ไม่เป็นสนิมเลยจึงไม่ต้องซ่อมพื้นหรือโครงสร้างบ่อย ผลลัพธ์คือการประหยัดวัสดุซ่อมแซมและค่าขนส่ง ทุกกิโลคาร์บอนที่ตัดออกเท่ากับคะแนนในระบบอาคารเขียวที่สูงขึ้น
น้ำหนักเบาแต่แรงดึงสูง ตัวเลขพิสูจน์ได้
GFRP Rebar มีค่าแรงดึงเฉลี่ยประมาณ 1 000 MPa ส่วนเหล็กไวร์เมชข้ออ้อย SD40 อยู่ราว 390 MPa จึงใช้เส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่าแต่ยังรับแรงได้เท่ากัน เมื่อลดขนาดเส้นได้ ปริมาณคอนกรีตครอบเหล็ก (Cover) ก็ลดลงตาม โครงสร้างเบาขึ้น ทุนคอนกรีตลดลง และฐานรากรับภาระน้ำหนักลดลงด้วย ทั้งหมดนี้สะท้อนเป็นความประหยัดตั้งแต่ค่าเหล็ก ค่าคอนกรีต จนถึงการช่วยประหยัดงบประมาณงานฐานรากทั้งหมดอีกด้วย
อายุใช้งานยาวนาน ลดรอยแตกร้าว ลดงบซ่อม
เพราะ GFRP Mesh ไม่เกิดออกซิเดชัน จึงไม่มีแรงดันจากสนิมที่ดันคอนกรีตแตก งานพื้นโรงงานชายทะเล สนามกีฬา หรือสระว่ายน้ำจึงคงรูปลักษณ์สวยงามนานกว่าเหล็กเสริมแรง เคสศึกษาจาก
รายงาน “Durability of GFRP Bars Extracted from Bridges with 15 to 20 Years of Service Life” โดยทีม University of Miami & Penn State (เผยแพร่ 2019) ตรวจสอบสะพานคอนกรีต 11 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ที่ใช้ GFRP Mesh/Bar ตั้งแต่ ปี 1999–2004 (อายุงาน 15-20 ปี) ผลทดสอบคอร์และดึงแกนสรุปว่า
- กำลังดึงเหลือ ≈ 98 % (ลดลงเฉลี่ยเพียง ≈ 2 %)
- ไม่พบสนิมหรือรอยแตกเชิงโครงสร้าง ในโซนที่ใช้งาน GFRP
- ช่องทางที่ใช้เหล็กไวร์เมชแบบเก่าอยู่ต้องอุดซ่อมทุก 6-8 ปี ทำให้ ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาตลอดช่วงเดียวกันสูงกว่า ≈ 30 %
ผลนี้ยืนยันว่า GFRP Mesh/Bar ให้ความทนทานระยะยาวและลดภาระซ่อมได้จริง จึงถูกยกเป็นวัสดุทดแทนเหล็กมาตรฐานใหม่สำหรับงานพื้น สะพานแนวราบยุค Green Building
ไม่เป็นตัวนำไฟฟ้า ปลอดภัยต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
โครงสร้างที่ต้องติดตั้งสายไฟแรงสูงหรือเครื่องมือวัดละเอียด เช่น ศูนย์ข้อมูลและโรงงานอิเล็กทรอนิกส์ จะได้ประโยชน์จากคุณสมบัติไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าของ GFRP หมดปัญหาไฟฟ้ารั่วหรือการรบกวนสนามแม่เหล็ก ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเสถียรกว่า
ผลักดันเกณฑ์อาคารเขียวและ ESG
เมื่อองค์กรต้องรายงานตัวชี้วัด ESG การเลือกวัสดุทดแทนเหล็กที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ น้ำหนักเบา และยืดอายุโครงสร้าง ช่วยให้ทีมพัฒนาโครงการสามารถทำคะแนน Green Building ได้ง่ายขึ้น สถิติจากโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ที่เลือก GFRP Mesh เสริมพื้นจอดรถ ระบุว่าคะแนนหมวด Materials & Resources ใน LEED v4 เพิ่มขึ้นสองคะแนนเต็มทันที พร้อมลดเวลาหน้างานเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์
สรุป ก้าวถัดไปของวัสดุทดแทนเหล็ก
การเปลี่ยนจากเหล็กเสริมแรงเป็น GFRP Rebar และ GFRP Mesh ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกเชิงเทคนิค แต่คือก้าวสำคัญสู่การก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดคาร์บอน ลดน้ำหนัก ลดค่าใช้จ่ายตลอดอายุอาคาร และยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน หากคุณกำลังวางแผนโครงการ Green Building หรือมองหาวิธีขยับคะแนน ESG วัสดุทดแทนเหล็กจาก NOVA พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์ให้คุณก้าวสู่มาตรฐานใหม่อย่างมั่นใจ
สนใจสั่งซื้อ GFRP Mesh ไวร์เมชไฟเบอร์กับ NOVA
โทร : 02-814-8565
Line : @Nova.co.th
Facebook : NOVA GFRP นวัตกรรมโพลิเมอร์ผสมเส้นใยเสริมแรงในคอนกรีต
อีเมล : Contact.novagfrp@gmail.com