ไขความลับ “แรงดึง ×3” ของ GFRP Mesh ที่ผู้รับเหมาเลือกใช้

คอนกรีตต้องพึ่งตะแกรงเสริมแรงมาตลอด แต่เหล็กไวร์เมชยังคงมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักและสนิม ผู้รับเหมาจึงเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ที่ให้กำลังรับแรงดึงสูงกว่าในน้ำหนักที่เบากว่า GFRP Mesh หรือไวร์เมชไฟเบอร์จึงกลายเป็นคำตอบ เพราะมีค่าแรงดึงสูงถึงประมาณ 1 000 MPa มากกว่าเหล็กรีดเย็นที่อยู่ราว 390 MPa หรือแรงดึงมากกว่าถึงสามเท่า

 

GFRP Mesh “แรงดึง ×3” คืออะไร

แรงดึงคือความสามารถของวัสดุในการต่อต้านการยืด เมื่อพูดว่า GFRP Mesh มีแรงดึงมากกว่าเหล็กสามเท่า หมายถึงในเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กกว่า เส้นใยแก้วยังคงรับแรงดึงได้เทียบเท่าเหล็กขนาดใหญ่ ผลคือสามารถใช้ไวร์เมชไฟเบอร์ขนาด 2.8 มม. แทนเหล็กไวร์เมช 4 มม. โดยไม่ลดความแข็งแรงของพื้นคอนกรีต ความต้านแรงดึงที่สูงกว่า 3 เท่า นี้ช่วย “รั้ง” ไม่ให้คอนกรีตแตกจากการหดตัวหรือการยึด-ขยายตามอุณหภูมิได้ดีกว่า ทำให้พื้นคงรูปเรียบสม่ำเสมอ ไม่เกิดรอยร้าว ที่มักเห็นบนพื้นโรงรถหรือพื้นโกดัง นอกจากนี้ไวร์เมชไฟเบอร์ยังไม่เป็นสนิม จึงไม่บวมดันคอนกรีตให้ร่อนเหมือนไวร์เมชเหล็ก

 

โครงสร้างภายในของ GFRP Mesh

เส้นใยแก้วถูกจัดเรียงเป็นมัดตามแนวราบแล้วเคลือบด้วยเรซินคุณภาพสูง ทุกจุดเชื่อมถูกทำให้ต่อเนื่องระหว่างเส้นใย จึงกระจายแรงได้สม่ำเสมอทั่วตะแกรง ไม่เกิดจุดอ่อนที่พร้อมแตกเหมือนจุดเชื่อมโลหะที่อาจมีช่องว่างหรือรอยร้าวระหว่างเหล็กและรอยเชื่อม

 

เหล็กไวร์เมชเทียบกับ GFRP Mesh

เมื่อต้องรับแรงดึง 100 กิโลนิวตัน เหล็กhttps://www.nova.co.th/ไวร์เมช 4 มม. ต้องใช้พื้นที่หน้าตัดมากกว่า GFRP Mesh ถึงสามเท่า ผลคือแผ่นเหล็กหนักกว่า ขนย้ายยาก และทำให้คอนกรีตต้องหนาขึ้นเพื่อครอบคลุมเส้นเหล็ก ขณะที่ GFRP Mesh เบากว่าและไม่เกิดสนิม จึงลดความหนาคอนกรีตครอบเหล็กได้อีก 10–15 มิลลิเมตร ช่วยประหยัดปริมาณคอนกรีต พร้อมกับได้พื้นที่แข็งแรงกว่า

ยกตัวอย่าง ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเทพื้นโรงรถขนาด 20 ตารางเมตร (กว้าง 4 ม. ยาว 5 ม.).

• กรณีใช้เหล็กไวร์เมช 4 มม.
  • ต้องเทคอนกรีตหนา 120 มม. เพื่อให้ครอบเส้นเหล็กได้พอ
  • น้ำหนักเหล็กที่ใช้ในงานนี้หนักราวๆ 180 กก.
• กรณีใช้ GFRP Mesh เบอร์ 2.8 มม.
  • ลดความหนาคอนกรีตเหลือ 105 มม. เพราะเส้นเล็กกว่า ประหยัดคอนกรีต 15 %
  • น้ำหนักตะแกรงรวมไม่ถึง 60 กก. คนเดียวก็ยกได้ ทำงานสบายกว่า

ผลลัพธ์คือคุณใช้คอนกรีตน้อยลงแต่ได้พื้นที่สามารรับน้ำหนักได้เท่าเดิม ขนส่งง่าย เทงานเร็ว และไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นบวมแตกเพราะสนิมในอนาคต ประหยัดตั้งแต่วันแรกไปจนถึงค่าซ่อมระยะยาว

ผลลัพธ์ในงานเทพื้นจริง

จากการทดสอบภาคสนามในพื้นโกดัง 3,000 ตารางเมตร การเปลี่ยนมาใช้ GFRP Mesh ลดเวลาปูกระจายตะแกรงลง 25% เพราะม้วนไฟเบอร์ยาวต่อเนื่องคลี่ได้รวดเดียว พื้นหลังเท พบว่ารอยร้าวผิวลดลง 35 %เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับพื้นที่ใช้เหล็กในเงื่อนไขเดียวกัน เจ้าของโครงการยังไม่พบสนิมดันปูนแม้เปิดใช้งานกลางแจ้งตลอดการใช้งาน

ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและต้นทุน

แรงดึงสูงช่วยให้พื้นรับน้ำหนักซ้ำจากรถยกได้ดีกว่า รอยแตกเชิงโครงสร้างจึงเกิดยากขึ้น ด้านต้นทุนรวม ผู้รับเหมาพบว่าค่าแรงลดลง เพราะต้องใช้แรงคนยกน้อยกว่าและไม่ต้องเช่าเครื่องจักรช่วยยก นอกจากนี้ยังไม่ต้องสำรองงบกันสนิมหรือซ่อมรอยแตกร้าวบ่อยครั้ง

 

สรุป

GFRP Mesh ให้ค่าแรงดึงมากกว่าเหล็กสามเท่าในน้ำหนักที่เบากว่า เปิดโอกาสให้ลดขนาดเส้น ลดความหนาคอนกรีต และลดเวลาติดตั้งได้พร้อมกัน ผู้รับเหมาที่ต้องการเสริมพื้นให้แข็งแรง อยู่ทน และคุมต้นทุนจึงหันมาเลือกไวร์เมชไฟเบอร์แทนเหล็กแบบเดิม คุณพร้อมยกระดับประสิทธิภาพงานคอนกรีตของคุณแล้วหรือยัง 

 

สนใจสั่งซื้อ GFRP Mesh ไวร์เมชไฟเบอร์กับ NOVA

โทร : 02-814-8565
Line : @Nova.co.th
Facebook : NOVA GFRP  นวัตกรรมโพลิเมอร์ผสมเส้นใยเสริมแรงในคอนกรีต
อีเมล : Contact.novagfrp@gmail.com